
ชมรมคนโสดคาทอลิกเสนอ “คาสคา ทหารรับจ้างอมตะ หน้า 39“
นิยายอิงมหาทรมานพระเยซูเจ้า ประพันธ์โดย Barry Sadler เมื่อปี 1979 Alan Petervich เริ่มแปลและเรียบเรียงเมื่อ เมษายน 04 , 2014 ถึงวันนี้
http:// หน้า 39 และเริ่ม บทที่ 14
การเดินทางจะกินเวลาประมาณ สิบสองหรือ สิบสามวัน ขึ้นกับแรงลมและดินฟ้าอากาศ มีเวลาพอสำหรับการพักผ่อน คาสคาคิดเช่นนั้น เขาเฝ้าสังเกตุเกาะเล็กเกาะน้อยหลายพันเกาะที่เรียงรายตามลาดไหล่ทะเล ซีคลาเดส ถึงท่าเทียบเรือต่างๆนอกกาบของเรือ ขณะที่เรือเดินสมุทรมหึมาเชิดจมูกเรือแหวกคลื่นฝ่าน้ำทะเลสีคล้ำเหมือนเหล้าองุ่น มันน่าชื่นชมในการเฝ้าดูเกาะแก่งต่างๆและสูดเอาอากาศสดชื่นของทะเลที่ปกคลุมท้องฟ้าถึงสุดขอบฟ้า มันดูเหมือนกองเรือประหลาดขนาดใหญ่ที่ลอยลำอยู่บนน้ำทะเลสีดำ ภายใต้ท้องฟ้าสีฟ้าสดใส มันเหมือนยามกองเกียรติยศของขบวนเรือที่บรรดาพระส่งมา เพื่อเร่งความเร็วให้ขบวนเรือรีบเดินทางไปสู่อิสระภาพโดยเร็ว
เขายิ้มลึกๆภายใน ในความคิดแบบเด็กๆ มันเป็นเวลาหลาย – หลายปีตั้งแต่ภาพฝันเกิดขึ้นในสมองที่ออกจะถือดีอย่างไม่ประสีประสา คล้ายกับการถูกคล้ายเศษไม้ที่ลอยน้ำอยู่กลางทะเลกว้าง จากนั้น ก็เกิดอะไรบางอย่าง ลางสังหรณ์ที่ดีไง อะไรบางอย่างลึกในจิตใจของเขา กำลังบอกเขาว่า อิสระภาพกำลังจะมาถึงแล้ว แต่เขาก็ยังงงเป็นบ้าเป็นหลังอยู่ว่า ไอ้พวกทาสคนอื่นจะคิดหรือเปล่าว่าพวกมันจะรู้หรือเปล่า นี่คือช่วงความคิดสั้นๆของเขา
เขาต้องเก็บความคิดเช่นนี้ไว้ระหว่างการเดินทาง อีกครั้ง เหมือนเช่นตอนที่เขาถูกนำครั้งแรกไปสู่เกาะเซรีโฟส เขาไม่รู้สึกร่องรอยของการเมาคลื่นเลย แม้แต่ในทะเลที่คลื่นลมเงียบสงบตอนนี้ ความเจ็บป่วยเกิดขึ้นกับทาสคนอื่นๆหลายคน การโคลงเบาๆและเอียงไปมาของเรือ เพียงช่วยเขาให้ผ่อนคลายจากความนึกคิดเรื่องต่างๆขณะที่เขาพักผ่อน.
พวกเขาจากหมู่เกาะเหล่านั้นไป รุ่งเช้าของวันที่สอง ในท้องทะเล เมื่อเขาเดินขึ้นสู่ชั้นบนของเรือ ก็มองเห็นด้านท้ายเรือคือหมู่เกาะอาชะยา ปลายสุดด้านใต้ของประเทศกรีก พวกเขาเคลื่อนตัวเข้าสู่ทะเลที่ไม่มีเกาะแก่งใดๆ ที่ชาวกรีกเรียกว่าทะเลโยเนียน เป็นมหาสมุทรที่แผ่กว้างสี่ร้อยไมล์ แยกประเทศกรีก ออกจากประเทศที่เคยมีพระจักรพรรดิ์และเป็นลูกศิษย์ นั่นคือ โรม.
ในสิบวันที่กล่าวนั้นลมนิ่งไม่ไหวติงเพียงสองครั้ง ครั้นแล้ว เสียงเคาะกลองยาวไม้ก็ดังกระหึ่มขึ้นตามมาตรการ และทาสประจำหน้าที่ทุกคนก็เริ่มวาดกรรเชียงพร้อมๆกัน การลงแส้ จะใช้เป็นบางครั้งเท่านั้นในเรือลำนี้ กัปตันมีชุดฝีพายประจำกรรเชียงพร้อม และประสงค์จะให้พวกเขามีสุขภาพดีนานเท่าที่สามารถจะทำได้ มีเพียงสองคนเสียชีวิตลงจากไข้เลือดออก ที่ทำให้ฟันทั้งแผงหลุดออกไป กรณีอื่นก็คือ ที่กัปตันพยายามเคาะศีรษะทาสบางคนที่พายเรือผิดจังหวะ เมื่อเขาพยายามกดไม้ถือลงที่ศีรษะทาสแรงมาก แต่กระโหลกศีรษะทาสคนนั้นบางกว่าที่กัปตันคิด แน่นอน ที่เป็นอันตรายก็คือไม้ถือนั้นทำด้วยไม้เนื้อแข็งและยอดไม้เป็นแผ่นเงินหุ้มไว้.
คาสคาพยายามเก็บเนื้อเก็บตัวระหว่างการเดินทางนี้ แต่ ที่ไม่สามารถเมินเฉยได้ก็คือ เขาสังเกตุเห็นบางสิ่งบางอย่างในบรรดาทาสเหล่านั้น มันก็คงต้องมีอะไรบ้างจากทาสจำนวนสี่สิบห้าถึงหกสิบห้าคน ทาสคนหนึ่งที่หนวดและเคราเพียงกำมือสีเทาทำให้ดูน่าสนใจ มันยากที่จะบอกเพราะว่าสีของผิวสะท้อนคล้ายสีทองภายใต้การไหม้เกรียมของแสงอาทิตย์ ดวงตาทั้งสองข้างของเขาคล้ายกับใครบางคนที่คาสคาเคยเห็นในบรรดากลุ่มนักเดินทางจากตะวันออก ซึ่งมาที่ตลาดต่างๆในเยรูซาเลม เว้นแต่ว่า พวกเขาดูผิดเพี้ยนเล็กน้อย ดูแล้วคล้ายกับสีหน้าคนง่วงซึม ร่างของเขาบางแต่กล้ามเป็นมัดๆเข้าร่างนั้น
แต่ ที่มันมากก็คือ ชายคนนั้นได้ทำสิ่งที่ออกจะผิดปกติ ทุกเช้าและทุกเย็น เขาจะทำพิธีอะไรบางอย่างที่แปลกประหลาดในการออกกำลัง งอตัวบิดเบี้ยวคล้ายงู สบัดแขนสองข้างทำท่าแปลกๆ และท่าสบัดแข้งขาในท่วงท่าอื่นๆด้วยเวลานานพอสมควร พร้อมกับพ่นลมปราณออกมาผ่านฟันและริมฝีปาก พร้อมกับขยับหุบและยื่นพุงเข้าออกพร้อมกับสูดลมหายใจ
ต่อไป หน้า 40