
การก่อตั้งกลุ่มคาทอลิกไทยเฝ้าระวัง( คทร.)
The Thai Catholic Watch ( TCW ) was canonically established.

TCW +++++ คทร
ประเทศไทย
ThailanD
The Oath of Thai Catholic Watcher : Latin = 'Semper vigilo paratus et fidelis'.
English = ''Always watching, prepared and faithful'
ไทย = 'เฝ้าระวังเสมอ เตรียมพร้อมและซื่อตรง'
Peter Vichitr
Thawatchai
January 9, 2013
"
http://www.youtube.com/v/5bvZ76PgFgQ?hl=en_US&version=3">
สถานการณ์ที่คุกรุ่นมานาน เกี่ยวกับความขัดแย้ง อันเกิดจากความไม่เข้าใจกัน ในระหว่างศาสนิกชนของศาสนาต่างๆ แม้จะมีความพยายามจากหลายฝ่าย เป็นต้นฝ่ายคริสตชนคาทอลิก ที่ประสงค์จะทำความเข้าใจกับคนที่ถือความเชื่อแตกต่างกัน ถึงกับฝ่ายบริหารสูงสุดของศาสนจักรคาทอลิก หรือวาติกัน และสันตะสำนัก ได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อการเสวนาพูดคุยกัน ในชื่อ " คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อศาสนสัมพันธ์และคริสตสัมพันธ์ " หาลู่ทางให้คนที่เป็นตัวแทนของศาสนาต่างๆในประเทศไทย ได้พบปะประชุมพูดจาหรือเสวนากัน ทำความรู้จัดมักคุ้น และถ้อยทีถ้อยอาศัย เพื่อมิให้เกิดความขัดแย้งกันที่ไม่พึงประสงค์ ฝ่ายใดสงสัยเรื่องใด ก็สามารถพูดคุยสอบถามขอคำอธิบายจากอีกฝ่ายหนึ่งได้ คิดกันว่าน่าจะคลี่คลายความสงสัยในท่าทีของคนแต่ละศาสนาได้ ซึ่งเชื่อมั่นว่า ถ้าสามารถปฏิบัติตามที่กล่าวมานี้ ก็ไม่เห็นความจำเป็นที่จะใช้มาตรการรุนแรงทางกฎหมาย เข้าบังคับและลงโทษคนที่เผอิญหลงผิดโดยไม่ได้ตั้งใจหรือจงใจที่จะละเมิดคน ที่ถือศาสนาอื่น พูดง่ายๆก็คือ ประเทศไทยที่มีพลเมือง 64 ล้านคน ก็เป็นคนที่ถือพุทธเกือบร้อยเปอร์เซนต์ เป็นเสียงส่วนใหญ่ และคงไม่ต้องตรากฎหมายเพื่อปกป้องหรือคุ้มครองพุทธศาสนาแต่อย่างใด แต่ ไม่ทราบว่า คนพุทธอีกมากมายคิดอะไรอยู่ จึงต่างพากันสนับสนุนการออกกฎหมายคุ้มครองพุทธศาสนา และคาดว่าไม่นานคงตราออกมาประกาศใช้แน่ๆ
ในขณะเดียวกัน กลุ่มผู้เชื่อในพระเจ้าที่เรียกตัวเองว่าคริสตชนบางนิกาย กลับใช้เวลาวิกฤตินี้ หาเรื่องและข้อมูลมาโจมตีพระธรรมคำสอนหรือหลักคำสอน (dogma) หรือหลักความเชื่อของคาทอลิก โดยอ้างข้อมูลจากแหล่งเดียว คือพระคัมภีร์ ที่สร้างข้อหาเพิ่มเติม(มานานแล้ว)ว่า ชาวคริสตชนคาทอลิกไม่อ่านพระคัมภีร์ จึงไม่เชื่อพระคัมภีร์ กลับไปเอาข้อมูลจากธรรมประเพณี (tradition)มารวมเป็นแหล่งความเชื่อเสียอีก โดยที่ชาวคาทอลิกเอง รู้สึกประหลาดใจและไม่อยากตอบโต้ โดยคิดว่าเป็นการเข้าใจผิด ซึ่งด้วยประการฉนี้นี่เอง ที่คนต่างนิกายกลับคิดว่า เรายอมรับความผิดพลาด เลยไม่กล้าออกมาต่อสู้กับการกล่าวหา ที่ว่ามานี้ อย่างน้อยก็แสดงให้เห็นว่า มันคงจะถึงเวลาแล้วกระมัง ที่เราฆราวาสคาทอลิก จะยอมหอบข้อมูลที่เชื่อถือได้ ออกมาอธิบายให้ผู้ที่หลงเข้าใจผิดได้เข้าใจ ไม่ใช่ออกมาสู้กันนะครับ กรุณาอย่าเข้าใจแบบนั้น
นี่แหละคือมูลเหตุที่ทำให้เราจำต้องจัดกลุ่มคาทอลิกไทยเฝ้าระวังขึ้น เพื่อรับผิดชอบในงานสำคัญนี้ พร้อมกับเฝ้าระวังอีกทางหนึ่งที่กำลังโจมตีคาทอลิกเรา หนักข้อขึ้นทุกวัน แนวรุกด้านพุทธศาสนาไงละครับ
เรา - กลุ่มคาทอลิกไทย - ก็อยากแสดงความรับผิดชอบในการที่เราถือความเชื่อแบบคาทอลิก รับเอาคำสั่งสอนทางศาสนาคริสต์ โรมันคาทอลิก แม้เราจะคิดว่า เราเป็นพลเมืองไทยเช่นเดียวกับผู้ที่อยู่ภายใต้ร่มโพธิสมภารของพระมหากษัตริย์ไทย และเทิดทูนจงรักภักดีต่อพระองค์ เช่นเดียวกับคนไทยอื่นๆ แต่...เมื่อพิเคราะห์สิ่งที่เกิดมาแล้วและกำลังจะเกิดต่อไป และถือว่าเป็นอันตรายสำหรับพวกเราคาทอลิกในหลายเรื่องหลายประเด็น บางทีเรื่องที่เราไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นได้ ทางที่ดีที่สุดก็คือถือตามพระวาจาของพระเยซูเจ้าที่ว่า " ท่านทั้งหลาย จงเฝ้าระวัง ......."
และนี่คือสิ่งที่เราควรนำมาปฏิบัติ คือ เฝ้าระวัง เฝ้าระวังอะไรหรือ ? มีเรื่องที่ควรเฝ้าดูเฝ้าระวัง เพื่อจะได้บอกกล่าวแก่ชาวคาทอลิกได้ทันท่วงที ได้เตรียมตัวที่จะปกป้อง หรือแก้ไข ได้รวดเร็วและทันการ มากกว่าจะต่างคนต่างทำอย่างอื่น ไม่สนใจที่จะระมัดระวังตัว นั่นคือความประมาท เหมือนกับที่เราคาทอลิกไทยประมาทจนจะเจอดีเข้าไม่เร็วก็ช้า เพราะขาดการเฝ้าระวังนี่เอง นี่คือความจำเป็นยิ่งยวดที่พวกเราคงจะต้อง ประกาศรับอาสาสมัคร หรือรับสมาชิกกลุ่มผู้เฝ้าระวัง ระวังเรื่องอะไรบ้างเราจะพูดต่อไป ครับ
Ad Majorem Dei Gloriam
Alan Petervich